Wheelchair for Pets

เราจะดูแลสัตว์พิการให้มีชีวิตที่ดีได้อย่างไรในระยะยาว ? 
 
 
 
นี่อาจเป็นคำถามทั่วไปที่หลายคนเคยสงสัย แต่คงมีน้อยคนที่จะนำความสงสัยนี้มาคิดต่อยอด หาแนวทาง และลงมือสร้างนวัตกรรมเพื่อการดูแลรักษาสัตว์กลุ่มนี้อย่างจริงจังเหมือนกับ คุณหมออ้น หรือสพ.ญ.วรางคณา พันธุ์วาณิช ผู้ริเริ่มโครงการ “เพราะมีน้ำใจ จึงมีชีวิต” - Wheelchair for Pets มูลนิธิศาสตราจารย์ ดร.จักร  พิชัยรณรงค์สงคราม 
 
ต่อไปนี้จะเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจของโครงการฯ นี้ ที่จะถูกบอกเล่าผ่านแนวคิดและประสบการณ์ของคุณหมออ้น ตั้งแต่ที่มาที่ไปของโครงการฯ ความสำคัญของวีลแชร์ ตลอดจนกิจกรรมดี ๆ ที่จิตอาสาไม่ควรพลาด
 
จุดเริ่มต้น
 
"เมื่อก่อนเราเห็นหลายเคสที่หมอพยายามรักษากันสุดความสามารถเลย แต่สุดท้ายแล้วเขาโชคร้ายต้องพิการเดินไม่ได้ไปตลอดชีวิต ซึ่งเราก็เห็นว่าเจ้าของหลายคนอยากจะดูแลนะคะ แต่อุปกรณ์ต่าง ๆ ตอนนั้นยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก หายาก มีราคาค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นวีลแชร์หรือขาเทียม จึงทำให้บางเคสเข้าไม่ถึงการรักษา” คุณหมออ้นเริ่มต้นเล่าถึงปัญหาให้เราฟัง และด้วยความที่คุณหมออ้นสนใจเรื่องนวัตกรรมการรักษาสัตว์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และเห็นว่าสมัยนั้นวงการสัตวแพทย์ยังไม่มีใครทำตรงจุดนี้ จึงคิดอยากทำวีลแชร์สำหรับสัตว์พิการขึ้นมา โดยเริ่มต้นจากการลองทำแจกแค่กลุ่มเล็ก ๆ ก่อน แต่ต่อมาทราบว่าทางมูลนิธิศาสตราจารย์ ดร.จักร  พิชัยรณรงค์สงครามมีความสนใจที่จะทำโครงการเพื่อสังคม คุณหมออ้นจึงมีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับทางมูลนิธิฯ จนเกิดเป็นโครงการฯ นี้ขึ้นมา
 
Wheelchairs for Pets
 
โครงการฯ นี้เปิดโอกาสให้เจ้าของที่เลี้ยงสัตว์พิการมาติดต่อขอรับวีลแชร์ได้ฟรี ซึ่งรายละเอียดเอกสารการขอรับ ตลอดจนหลักเกณฑ์การพิจารณาต่าง ๆ สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่ http://www.chakr.or.thรวมถึงกรณีที่เราเจอสุนัข แมว หรือสัตว์พิการแล้วคนเลี้ยงไม่ทราบว่ามีโครงการฯ นี้ เราก็สามารถนำเอกสารให้เขากรอกข้อมูล แล้วประสานมายังมูลนิธิฯ ได้เช่นกัน 
 
นอกจากการติดต่อขอรับวีลแชร์แล้ว หากเจ้าของคนไหนมีสัตว์พิการก็สามารถปรึกษามาที่มูลนิธิฯ ได้ โดยทางคุณหมออ้นและทีมงานจะช่วยแนะนำอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับสัตว์พิการในแต่ละกรณี โดยคุณหมออ้นยกตัวอย่างคร่าว ๆ ว่า “ถ้าพิการสองขาหลังหรือสองขาหน้าอาจจะแนะนำเป็นวีลแชร์แบบสองล้อ ถ้าเป็นมากกว่าสองขาหรือขาอ่อนแรงก็อาจแนะนำเป็นแบบสี่ล้อ แต่กรณีที่เป็นข้างเดียวโดยส่วนใหญ่สัตว์จะปรับตัวได้ ยกเว้นในบางกรณีที่ส่งผลกับคุณภาพชีวิต สัตว์ยังมีตอขาเหลือเพียงพอ และระบบประสาทยังทำงานได้ดี เราก็สามารถทำขาเทียมให้ได้” 
 
 
ความเข้าใจผิด
 
เจ้าของบางคนมักเข้าใจว่าเพียงแค่เราใส่วีลแชร์ให้แล้วปัญหาทุกอย่างจะหมดไป หรือเราสามารถนำวีลแชร์ไปใส่ให้สัตว์พิการตัวไหนก็ได้ ซึ่งคุณหมออ้นบอกว่าจริง ๆ แล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะสัตว์พิการที่ใส่วีลแชร์ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด ให้ดีที่สุดควรเป็นสัตว์ที่มีเจ้าของ หรืออย่างน้อย ๆ สัตว์ก็จำเป็นต้องมีคนดูแลในกิจกรรมพื้นฐาน เช่น การพาสัตว์ลงจากวีลแชร์เพื่อขับถ่าย เป็นต้น นอกจากนี้ยังไม่ใช่สัตว์ทุกตัวที่จะสามารถวิ่งได้ทันทีหลังจากใส่วีลแชร์ เพราะสัตว์ส่วนใหญ่ต้องการเวลาในการปรับตัว เหมือนกับคนที่เพิ่งหัดขับรถใหม่ ๆ ที่เริ่มต้นมักจะยังขับได้ไม่คล่องหรือกะระยะไม่ค่อยได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปคนเราก็จะสามารถปรับตัวได้ในที่สุด สุนัขก็เช่นเดียวกัน
 
ความสุขที่เกิดจากการให้
 
ด้วยความหวังที่อยากจะเห็นโครงการฯ นี้เติบโตอย่างยั่งยืน ดังนั้นนอกจากการรับทำวีลแชร์เพื่อช่วยเหลือสัตว์พิการแล้ว การสร้างคนและเผยแพร่องค์ความรู้ก็เป็นเรื่องที่คุณหมออ้นและทางมูลนิธิฯ ให้ความสำคัญ จึงเป็นที่มาของการจัดกิจกรรมสอนทำวีลแชร์ ที่เปิดให้อาสาสมัครได้เข้ามามีส่วนร่วม 
 
“ถ้าได้มาเห็นภาพตอนทำเวิร์คช็อปจริง ๆ  เราจะเห็นทุกคนแบ่งกลุ่มช่วยกันทำ พอถึงขั้นตอนที่น้องหมาลองใส่วีลแชร์ ทุกคนจะกรูกันไปดูน้อง พอเห็นว่าน้องวิ่งได้ เขาจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของวีลแชร์อันนี้ หรือบางทีทำเสร็จปุ๊บน้องยังวิ่งไม่ได้ก็มีค่ะ ก็ต้องมาคิดต่อว่าทำอย่างไรให้น้องใช้งานได้ อันนี้ก็เป็นสิ่งที่พี่ได้เรียนรู้เหมือนกัน คือเราได้เห็นอาสาสมัครที่เราสร้างขึ้นมาช่วยกันแก้ไขจนสำเร็จ จนน้องวิ่งได้ และเจ้าของก็ยิ้มได้ ซึ่งเราก็ต้องขอบคุณทั้งอาสาสมัคร รวมถึงสปอนเซอร์ นั่นคือทางสมาร์ทฮาร์ทและมีโอ ที่ช่วยให้กิจกรรมนี้เกิดขึ้น กลายเป็นช่วงเวลาของความรู้สึกดี ๆ ที่ส่งถึงกันระหว่างพี่ ๆ อาสา น้องหมาน้องแมว และเจ้าของจริง ๆ” คุณหมออ้นบรรยายความรู้สึกระหว่างทำกิจกรรมให้เราฟัง
 
นอกจากนี้ในมุมของ คุณหมอท็อป (น.สพ.ดนัย เพียรจริง) ในนามของบริษัท เพอร์เฟค คอมพาเนียน กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารสุนัขสมาร์ทฮาร์ทและอาหารแมวมีโอ ในฐานะผู้สนับสนุนโครงการ ยังมองเห็นถึงพัฒนาการของโครงการฯ มาตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ให้การสนับสนุนว่า “เมื่อก่อนคนที่มาสอนหรือมาช่วยทำวีลแชร์ยังมีไม่มากถ้าเทียบกับตอนนี้ ผมเองก็เคยไปช่วยทำวีลแชร์ รวมถึงได้มีโอกาสพูดคุยกับอาสาสมัครและเจ้าของสัตว์ที่มารับวีลแชร์ไป ก็ได้เห็นว่าทุกฝ่ายต่างก็มีความสุข ซึ่งก็ต้องขอบคุณทางมูลนิธิฯ ที่ได้จัดโครงการฯ ดี ๆ แบบนี้ขึ้นมา และเปิดโอกาสให้ทางบริษัทฯ เข้าไปสนับสนุน”
 
ตลอด 6 ปีที่ผ่านมาวีลแชร์ที่เกิดจากความตั้งใจของอาสาสมัคร ได้ช่วยให้สัตว์พิการในโครงการฯ มากกว่า 1,000 ตัวทั่วประเทศมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงความสำเร็จของโครงการฯ ได้เป็นอย่างดี และนอกจากวีลแชร์แล้ว ทางมูลนิธิฯ ยังมีกิจกรรมค่ายพี่เลี้ยง(สอนทำวีลแชร์) กิจกรมวิ่งเพื่อน้องหมา รวมถึงในอนาคตยังมีแผนขยายเครือข่ายอาสาสมัครไปยังส่วนภูมิภาค รวมถึงจัดกิจกรรมให้เจ้าของและสัตว์ที่เคยได้วีลแชร์ไปมาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกันอีกด้วย โดยหากท่านใดสนใจสนับสนุนหรือเข้าร่วมกิจกรรมดี ๆ แบบนี้ ก็สามารถติดตามข่าวสารได้จากทั้งทางมูลนิธิศาสตราจารย์ ดร.จักร พิชัยรณรงค์สงคราม และบริษัท เพอร์เฟค คอมพาเนียนกรุ๊ป จำกัด 
 
สุดท้ายก่อนจบบทสนทนา คุณหมออ้นยังทิ้งท้ายกับเราว่า “ถ้าโครงการฯ นี้ไม่ดีจริง หลาย ๆ คนคงไม่กลับมาทำอย่างต่อเนื่อง ถ้าถามว่าพี่ได้อะไรจากการทำโครงการฯ นี้บ้าง มันมหาศาลเลยนะ เลยจะบอกว่าถ้าใครอยากรู้ว่าดียังไง เราขอท้าให้มาลอง แล้วคุณจะรู้สึกว่าเวลาครึ่งวันนั้นมันเป็นเวลาที่มีคุณภาพมาก เพราะคุณจะได้ใช้มันอย่างเต็มที่ และเป็นการใช้เวลาที่ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อสัตว์พิการและเจ้าของอีกหลาย ๆ คน”
 
ที่มา: กองบรรณาธิการ VPN Magazine 
 
ติดต่อมูลนิธิฯ ได้ที่ :
โทรศัพท์ : 02-797-1967, 092-565-0004
อีเมล dr.chakr@gmail.com
 
ติดตามกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ :
Facebook : มูลนิธิศาสตราจารย์ ดร.จักร พิชัยรณรงค์สงคราม